อนาคตอันใกล้การเดินทางจะเปลี่ยนไปเช่นไร

การเดินทางปัจจุบันที่ใช้งานกันแบ่งเป็นการเดินทาง ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งพาหนะก็จะเป็น ทางบกคือรถ ทางน้ำคือเรือ ทางอากาศคือเครื่องบิน

ในอนาคตที่ไม่เกิน 10 ปี ข้างหน้าเราจะได้พบเห็นพาหนะแบบไหนบ้าง มาดูกัน

1.ทางบก เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้เห็นความก้าวหน้าของยานยนต์ไร้คนขับ รวมถึงรถโดยสารไร้คนขับ หลายเมืองทั่วโลกได้เริ่มทดสอบและนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้แล้ว ตัวอย่างเช่น ลียงในฝรั่งเศส เหอหนานในจีน โตเกียวในญี่ปุ่น วอชิงตัน ดี.ซี. ในสหรัฐอเมริกา เฮลซิงกิในฟินแลนด์ ซูริกในสวิตเซอร์แลนด์ เพิร์ธในออสเตรเลีย และแม้แต่สิงคโปร์ประเทศเพื่อนบ้านของเราก็ได้เริ่มทดสอบรถโดยสารไฟฟ้าไร้คนขับแล้ว รถโดยสารเหล่านี้สามารถขนส่งผู้โดยสารได้จำนวนเล็กน้อย โดยปกติจะมีตั้งแต่ 6 ถึง 15 คน และโดยทั่วไปแล้วจะวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ ในวันที่ 10 มกราคม 2017 ลาสเวกัสกลายเป็นเมืองแรกใน สหรัฐฯ ทดสอบรถโดยสารไร้คนขับบนถนนสาธารณะ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นและศักยภาพของเทคโนโลยีอัตโนมัติในภาคการขนส่ง ในอนาคต การพัฒนาเหล่านี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวิธีที่เราเดินทางและเดินทาง

นอกจากรถโดยสารไร้คนขับแล้ว ยังมีแนวคิดด้านการขนส่งที่เป็นนวัตกรรมอื่นๆ ที่กำลังสำรวจ เช่น Hyperloop ของ Elon Musk Hyperloop เป็นโหมดการขนส่งที่นำเสนอซึ่งใช้แคปซูล (พ็อด) เดินทางผ่านท่อสุญญากาศด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายให้เร็วกว่าเครื่องบินโดยสารลำอื่นๆ ด้วยความเร็วสูงสุดทางทฤษฎีที่ 760 ไมล์ต่อชั่วโมง (1200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เทคโนโลยีนี้อาจปฏิวัติการเดินทางระยะไกล โดยสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ได้ในเวลาเพียง 30 นาที

โดยรวมแล้ว ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการขนส่งอัตโนมัติและนวัตกรรมเหล่านี้ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ดีสำหรับอนาคต และมอบศักยภาพที่มากขึ้น รูปแบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรวดเร็วยิ่งขึ้น

2.ทางน้ำ เรือโดยสารแท็กซี่  SeaBubbles พาหนะทางน้ำรูปแบบใหม่ของกรุงปารีส ที่จะมาเริ่มทำหน้าที่เป็น ‘แท็กซี่แม่น้ำแซน’ แนวคิดหลักในการพัฒนานวัตกรรมการขนส่งผู้โดยสารสำหรับอนาคต ซึ่ง Alain Thébault นักแล่นเรือชาวฝรั่งเศส และ Anders Bringdal นักโต้คลื่นชาวสวีเดน สองผู้ริเริ่มพัฒนาโครงการนี้ ก็สร้าง SeaBubbles ขึ้นมาเพราะต้องการช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรและมลภาวะของกรุงปารีสนั่นเอง SeaBubbles ไม่ใช่เรือ แต่เป็น hydrofoil ที่จะลอยอยู่เหนือผิวน้ำประมาณ 1-2 นิ้วขณะแล่น ทำให้เกิดแรงต้านน้อยกว่าและสามารถทำความเร็วได้ถึง 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียง

3.ทางอากาศ  Airbus ได้ออกแบบพาหนะหน้าตากึ่งรถยนต์กึ่งเฮลิคอปเตอร์ กึ่งคันกึ่งลำนี้ มีชื่อว่า Vahana ซึ่งมาจากคำว่า ‘วาหน’ ในภาษาสันสกฤต หรือที่เราอ่านออกเสียงกันว่า ‘พาหนะ’ นั่นเอง Vahana ถูกออกแบบมาให้บินขึ้นลงในแนวดิ่งได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์ และทำหน้าที่เป็น ‘แท็กซี่อากาศ 1 ที่นั่ง’ ความพิเศษของมัน คือการสามารถขับเคลื่อนตัวเองได้โดยไม่ต้องมีนักบิน ดังนั้น หากจะเรียกว่ามันคือ Drone ก็คงไม่ผิดนัก เพียงแต่แทนที่จะเป็นแค่อุปกรณ์ถ่ายภาพหรือขนส่งพัสดุ (อย่างที่ Amazon ได้เริ่มไปแล้ว) Airbus วางแผนยิ่งใหญ่กว่าให้ Vahana เป็น ‘อากาศยานไร้คนขับสำหรับโดยสาร’ เจ้าแรกของโลกที่ได้รับการรับรองให้ใช้รับส่งมนุษย์ได้จริง

#การขนส่ง #การเดินทาง #เทคโนโลยีการขนส่ง #การเดินทางในอนาคต