โครงการฝูงบินโดรนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีเป้าหมายที่จะพัฒนากองกำลังที่น่าเกรงขามของโดรนที่เปิดใช้งาน AI ซึ่งสามารถปฏิบัติการได้ด้วยตนเองและ ความสามารถในการต่อสู้ขั้นสูง โดรนเหล่านี้จะติดตั้งเซ็นเซอร์ ระบบสื่อสาร และอาวุธที่ล้ำสมัย ด้วยการใช้ประโยชน์จากอัลกอริธึม AI อากาศยานไร้คนขับ (UAV) เหล่านี้จะมีการรับรู้สถานการณ์ที่ดีขึ้น ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำในสถานการณ์สมรภูมิที่ซับซ้อน
โดรนในฝูงบินแบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า XQ-58A Valkyrie เป็นอากาศยานแบบไร้คนขับ (Uncrewed Aircraft) ที่มีขนาดยาวไม่เกิน 9.1 เมตร น้ำหนักเครื่องเปล่าไม่รวมเชื้อเพลิงอยู่ที่ 1.13 ตัน โดรนนี้สามารถประกบกับเครื่องบิน F-22 และ F-35 ได้
การพัฒนาโดรน XQ-58A Valkyrie พร้อมระบบควบคุมด้วย AI ตามแผนการงบประมาณของกองทัพสหรัฐฯ คาดว่าต้นทุนการผลิตของแต่ละลำจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 105 ล้านบาท) ซึ่งมีราคาต่ำกว่าโดรน F-22 ที่มีต้นทุนลำละ 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท) และ F-35 ที่มีต้นทุนลำละ 2,600 ล้านบาท
เพื่อความถูกต้องและเพื่อเสริมความคุ้มค่า บริษัท Kratos, ผู้พัฒนา XQ-58A Valkyrie, ได้สร้างระบบที่ชื่อว่า AACO (Autonomous Air Combat Operations) ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อควบคุมการบินและดำเนินภารกิจอย่างอิสระ และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา, พวกเขาได้ทดสอบระบบการบินนี้เป็นเวลา 3 ชั่วโมงโดยประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่านักบินทางเทคนิคอาจรู้สึกไม่เชื่อมั่นในการใช้ระบบนี้ในขณะนี้ Jao ka.
XQ-58A Valkyrie เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ LCASD (Low Cost Attritable Strike Demonstrator) ซึ่งเป็นเครื่องบินโจมตีที่ทนทานและต้นทุนต่ำ โดยได้รับการพัฒนาโดยกองทัพอากาศสหรัฐ ในขณะนี้ กระทรวงกลาโหมกำลังยื่นข้อสรุปการจัดสรรงบประมาณให้กับคณะกรรมการเกรียนเพื่อเริ่มโครงการในปีงบประมาณถัดไป โดยมีค่างบประมาณเริ่มต้นอยู่ที่ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 116,000 ล้านบาท
#โดรน #UAV #อากาศยานไร้คนขับ #โดรนเอไอ